วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 2

วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิ่น
วันที่ 20 มกราคม พ..2558
กลุ่มเรียน 105 (วันอังคาร) เวลา 08:30 – 12:20 .



ความรู้ที่ได้รับ
การเรียนการสอนในวันนี้เรียนในเรื่อง รูปแบบการจัดการศึกษา มีเนื้อหาที่เรียนดังนี้ 
รูปแบบการจัดการศึกษา
-การศึกษาปกติทั่วไป (Regular Education)
-การศึกษาพิเศษ (Special Education)
-การศึกษาแบบเรียนร่วม  (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
-การศึกษาแบบเรียนรวม  (Inclusive Education)
การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
-เด็กที่มีความต้องการพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
-การจัดให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป
-มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน
-ใช้ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน
-ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน
การเรียนร่วมบางเวลา (Integration)
-การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา
-เด็กพิเศษได้มีโอกาสแสดงออก และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กปกติ
-เป็นเด็กพิเศษที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก จึงไม่อาจเรียนร่วมเต็มเวลาได้
การเรียนร่วมเต็มเวลา (Mainstreaming)
-การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน
-เด็กพิเศษได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้และบริการนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ
-มีเป้าหมายเพื่อให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน ตอบสนองความต้องการซึ่งกันและกันและมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
-เด็กปกติจะยอมรับความหลากหลายของมนุษย์ เข้าใจว่าคนเราเกิดมาไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกอย่าง ท่ามกลางความแตกต่างกัน มนุษย์เราต้องการความรัก ความสนใจ ความเอาใจใส่เช่นเดียวกันทุกคน
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education)
-การศึกษาสำหรับทุกคน
-รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา
-จัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
Wilson , 2007
-การจัดการเรียนการสอนที่ยึดปรัชญาของการอยู่รวมกัน (Inclusion) เป็นหลัก
-การสอนที่ดี เป็นการสอนที่ครูกับนักเรียนช่วยกันให้ทุกคนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน
-กิจกรรมทุกชนิดที่จะนำไปสู่การสอนที่ดี (Good Teaching) ต้องคิดอย่างรอบคอบเพื่อหาหนทางให้นักเรียนทุกคนสามารถเรียนได้
-เป็นการกำหนดทางเลือกหลายๆ ทาง

"Inclusive Education is Education for all,
It involves receiving people
at the beginning of their education,
with provision of additional services
needed by each individual"

การศึกษาแบบเรียนรวมเป็นการศึกษาสำหรับทุกคน เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก แต่ละคนย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกันต้องจัดการศึกษาที่เหมาะสม
สรุปความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
-เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติ โดยรับเข้ามาเรียนรวมกัน ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาและจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
-เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา
-เกิดจากปรัชญาการศึกษาที่กล่าวไว้ว่า การศึกษาสำหรับทุกคน(Education for All)
-การเรียนรวม เป็นแนวคิดทางการศึกษาอย่างหนึ่งที่โรงเรียนจะต้องจัดการศึกษาให้กับเด็กทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดเป็นเด็กปกติ หรือเด็กคนใดเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
-เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก
-เด็กทุกคนที่ผู้ปกครองพาเข้ามาโรงเรียนทางโรงเรียนจะต้องรับเด็กไว้ และจะต้องจัดการศึกษาให้อย่างเหมาะสม และดำเนินการเรียนในลักษณะ “รวมกัน” ที่ทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่ง ของสังคม ทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน
-ทุกคนยอมรับว่ามี ผู้พิการ อยู่ในสังคมและเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับคนปกติ โดยไม่มีการแบ่งแยก
ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
-ปฐมวัยเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนรู้
-สอนได้
-เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด

          เมื่อเรียนในเรื่องของเนื้อหาแล้วอาจารย์ก็ได้ให้ทำแบบทดสอบหลังเรียนทำให้เรารู้ตัวเองว่าตั้งใจเรียนหรือตั้งใจฟังอาจารย์มากน้อยเพียงใดและเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอนนั้นมากน้อยเพียงใด จากนั้นก็ได้ให้นักศึกษาทบทวนบทเพลงที่ให้ไปในสัปดาห์ที่แล้วว่ายังจำได้และร้องถูกทำนองหรือไม่ สรุปคือถูกบ้างผิดบ้างเลยตองฝึกร้องกันใหม่ทั้งห้องทำให้ทุกคนร้องได้ดีขึ้น^^

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- สามารถนำเอาความรู้ที่ได้นั้นมาจัดการเรียนการสอนได้ตรงตามความต้องการของเด็ก
- ทำให้รู้ว่าการเป็นครูนั้นเราไม่ควรไปตั้งฉายาให้กับเด็กเพราะจะทำให้เด็กเกิดปมได้
- สามารถนำเอาบทเพลงที่ได้ในวันนี้ไปใช้ร้องกับเด็กๆทั้งเด็กปกติและเด็กพิเศษได้เป็นอย่างดี
- สามารถนำเอาเทคนิคการร้องเพลงไปใช้กับเด็กได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

การประเมินการเรียนการสอน
ตนเอง = เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อยตั้งใจฟังเวลาอาจารย์สอนพร้อมจดบันทึกในประเดนที่สำคัญตั้งใจฝึกร้องเพลงที่อาจารย์สอน
เพื่อน  = มีเข้าเรียนสายเป็นบางคนแต่ก็ทันเนื้อหาที่อาจารย์จะสอนพอดีในขณะที่เรียนทุกคนก็ตั้งใจเรียนกันทุกคนมีคุยกันบ้างแต่ก็ไม่มากทุกคนให้ความร่วมมือในการฝึกร้องเพลงเป็นอย่างดี
อาจารย์ = อาจารย์ยังน่ารักเหมือนทุกๆครั้งที่เข้าสอนมีการให้คำปรึกษากับนักศึกษาเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายวิชานี้หรือรายวิชาอื่นก็ตามก็ยังให้คำปรึกษาได้ดีตลอด การสอนก็สอนละเอียดมากอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาเข้าใจได้ดีมากขึ้นและที่สำคัญมีการใช้เทคนิคการสอนโดยการทดสอบเด็กหลังเรียนว่าเด็กจะเข้าใจในสิ่งที่เรียนหรือไม่มากน้อยเพียงใดทำให้นักศึกษาได้รู้ความรู้ความจำของตัวเองมากขึ้นด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น